กิจวัตรข้อที่ 3 จัดเก็บห้องนอน ห้องน้ำ ให้สะอาด เป็นระเบียบ

สิ่งแวดล้อมทำให้เกิดนิสัย หากสิ่งแวดล้อมดี ก็ทำให้เราคุ้นชินกับสิ่งที่ดี ก็คิด พูด ทำดีก็ง่าย จะคิด พูด ทำชั่วก็ยาก ในทางตรงข้ามถ้าสิ่งแวดล้อมไม่ดี จะคิด พูด ทำชั่วก็ง่าย จะคิด พูด ทำดีก็ยาก


ฉะนั้น การดูแลสิ่งรอบตัวเราให้ดี โดยเฉพาะปัจจัย 4 ของเราเอง จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่หลายคนมองข้าม เพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะนิสัยที่เราอยู่ด้วยบ่อยที่สุด จึงส่งผลมากที่สุด


ซึ่งในกิจวัตรข้อที่ 3 ปัจจัย 4 ที่คนส่วนใหญ่คุ้นชินมากที่สุด และฝึกฝนได้ง่ายที่สุด นั่นคือ ห้องนอนและห้องน้ำของเราเอง


การที่เราตื่นนอนแล้วหันกลับมาจัดเก็บที่นอนให้เรียบร้อย พับผ้าห่ม ก่อนไปทำธุระอย่างอื่น เป็นการฝึกนิสัยรับผิดชอบต่อตัวเอง นิสัยลงมือทำ ไม่ทำงานคั่งค้าง รู้จักบริหารเวลา เป็นนักพัฒนา รักสะอาด รักความเป็นระเบียบ


ตู้เสื้อผ้า ที่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ พับเท่ากัน แขวนเรียงสีเรียงชนิด แบ่งประเภทจากต่ำไปสูง หากเราฝึกฝนเป็นประจำ เป็นการฝึกนิสัย ช่างสังเกต วางแผน จัดลำดับความสำคัญ มีความละเอียดปราณีต มีสัมมาคาราวะ วางตัวเหมาะสม และรู้จักตัดใจ สละสิ่งของที่ไม่ใช้


การที่เราหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่เสมอ เช็ดพื้น ขัดล้างสุขภัณฑ์ของเราเอง ไม่ปล่อยให้สิ่งสกปรกหมักหมม จัดระเบียบอุปกรณ์ของใช้ เป็นการฝึกนิสัย อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่มีทิฏฐิมานะ ความอดทน รับผิดชอบต่อสิ่งสกปรกที่ตนเองทำ ขยัน ไม่เกียจคร้าน


การช่วยกันจัดเก็บและทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเป็นประจำ สามารถลดการกระทบกระทั่งกันภายในครอบครัว ใครทำใครเห็นก็ชื่นตาชื่นใจ เพิ่มความรัก ความสามัคคี ทำให้ครอบครัวอบอุ่นได้อีกด้วย


กิจวัตรทั้งข้อ 1 2 และ 3 เป็นการฝึกนิสัยรู้รับผิดชอบต่อตนเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาไปสู่การรู้รับผิดชอบต่อสังคม คือการคิดดี พูดดี ทำดีต่อผู้อื่นนั่นเอง


ใช้ห้องนอนเป็น ชีวิตก็ก้าวหน้า

วิธีปัด กวาดให้เป็น


วิธีทำความสะอาดห้องน้ำ

วิธีผับผ้าในแบบต่างๆ