ศีล
มาจากภาษาบาลี (สีล) แปลว่า ปกติ
หมายถึง ข้อปฏิบัติพื้นฐานเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
การรักษาศีล 5 ให้สม่ำเสมอ จะเป็นการสร้างนิสัยรับผิดชอบต่อกายและวาจาของตนเอง รู้จักข่มใจ ไม่สร้างความทุกข์ร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น
การฝึกนิสัยรักษาศีล จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการสร้างชีวิตที่มีความสุข
โดยผู้ที่รักษาศีลจะได้ความสุขพื้นฐาน 5 ประการ คือ
- อายุยืน แข็งแรง จากการรักษาศีลข้อที่ 1 เว้นจากการเบียดเบียนชีวิตและประทุษร้ายผู้อื่น มีจิตเมตตา เห็นคุณค่าในสรรพชีวิต
- มีโภคทรัพย์ และทรัพย์จะไม่หายไปด้วยภัยต่างๆ จากการรักษาศีลข้อที่ 2 เว้นจากการลักทรัพย์ ประกอบสัมมาอาชีวะ
- มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่มีศัตรู จากการรักษาศีลข้อที่ 3 เว้นจากประพฤติผิดในกาม ซื่อสัตย์ในคู่ครองของตน ไม่ล่วงเกินบุตรธิดา สามีภรรยาผู้อื่น
- เป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจ มีบริวารที่ว่าง่ายเชื่อฟัง จากการรักษาศีลข้อที่ 4 เว้นจากพูดเท็จ พูดแต่ความจริง
- มีสติมั่นคง มีปฏิภาณ จากการรักษาศีลข้อที่ 5 เว้นจากการดื่มน้ำเมา และเสพสิ่งเสพติดทุกชนิด
ประโยชน์จากการรักษาศีลครบทั้ง 5 ข้อ
- จะได้นิสัยไม่ประมาท ไม่หาทุกข์มาใส่ตน
- มีชื่อเสียงที่ดีงาม
- ไปที่แห่งหนใด ก็แกล้วกล้าอาจหาญ
- ไม่มีศัตรู ไม่มีผู้ปองร้าย
- มีจิตใจที่ร่าเริง ผ่องใส ไม่สะดุ้งหวาดกลัว
ศีล เป็น มหาทาน คือการให้ที่ยิ่งใหญ่ ทุกครั้งที่มีคนคนหนึ่งรักษาศีล ทุกชีวิตจะได้รับประโยชน์มหาศาลทันที เพราะ
ศีลข้อที่ 1 คือการให้ความปลอดภัยในชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ละเว้นจากการฆ่าสัตว์
มีเมตตากรุณา
ศีลข้อที่ 2 คือการให้ความปลอดภัยในทรัพย์สินผู้อื่น
ละเว้นจากการลักขโมย
ประกอบอาชีพที่สุจริต
ศีลข้อที่ 3 คือการให้ความปลอดภัยในบุคคลอันเป็นที่รักของผู้อื่น
ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
สำรวมในกาม
ศีลข้อที่ 4 คือการให้ความจริงแก่ผู้อื่น
ละเว้นจากการพูดปด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด
ซื่อสัตย์ พูดความจริง
ศีลข้อที่ 5 คือการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง เพราะคนขาดสตินั้น สามารถทำผิดได้ทุกอย่าง
ละเว้นจากการเสพสุรา สิ่งเสพติดทุกชนิด
มีสติสัมปชัญญะ
ฉะนั้น การสร้างนิสัยรักษาศีล 5 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชีวิตที่สดใส ครอบครัวอบอุ่น และนำไปสู่สังคมที่สงบสุขอย่างแท้จริง