Case study

เรื่องการเปลี่ยนแปลงชีวิต - บ้าน


คุณปั๊กเป้า ถึงกับน้ำตาไหล 
 ดีใจที่ได้เจอโครงการนี้และยังมีโอกาสได้แก้ตัว

“ทุกครั้งที่ได้นึกย้อนไปถึงก็ต้องมีน้ำตา หนึ่งคือเสียใจกับที่ผ่านมา สองคือดีใจที่ได้เจอโครงการนี้ และสุดท้ายคือดีใจที่ยังมีโอกาสได้แก้ตัว”

จากครอบครัวที่ไม่อบอุ่น บ้านไม่มีแสงสว่าง พ่อกินเหล้า ตื่นมาต้องได้ยินเสียงแม่บ่นพ่อทุกวัน ตั้งแต่เล็กจนโต 30 กว่าปี คิดอยู่ทุกวันว่าในฐานะลูก เราจะทำอะไรให้ครอบครัวเราดีขึ้นได้บ้าง

จนวันหนึ่งที่แม่เป็นคนเดินจากไป พ่อก็ยังคงเหมือนเดิม เวลากราบพ่อ ในใจลึกๆมันก็ยังต้าน เพราะภาพในใจคือพ่อดื่มเหล้า อย่างนั้นแล้วเวลาที่คุยกับพ่อก็จะเสียงแข็ง ดุพ่อ ซึ่งไม่ถูกเลย พอดีกับช่วงที่พระอาจารย์ให้ลูกๆได้ทำโครงการจับดี เชื่อไหม เป็นลูกแท้ๆแต่กลับจับดีพ่อไม่ได้เลย จนวันหนึ่ง ได้มีโอกาสตัดเล็บเท้าให้พ่อ นึกขึ้นมาว่า ทุกครั้งที่เราก้มลงกราบเท้าคู่นี้ เราไม่เคยได้นึกถึงเลยว่า เท้าคู่นี้นี่แหละ ไม่เคยหยุดอยู่บ้านเลย ขับรถ taxi หาเงินเลี้ยงลูกมาตลอดชีวิต แล้วแค่เขากินเหล้า มันทำให้เรามองไม่เห็นความดีมากมายที่เขาทำไว้ได้เลยหรือ

เมื่ออคติในใจหมดไป จึงตั้งใจเลยว่า แม้ว่าพ่อจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร แต่หนูได้เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่ติดอยู่ในใจตลอด 37 ปีได้หมดไป ในวันนั้นที่เรากราบพ่อ เอาเท้าของพ่อขึ้นมาแนบหน้า มีความรู้สึกว่าในตอนที่เราเกิดมาใหม่ๆ พ่อก็คงทำกับเราแบบนี้เหมือนกัน พ่อก็ไม่เคยมีอคติกับเราแบบนี้เหมือนกัน จนวันที่รอคอยมาตลอดชีวิตได้มาถึง คือวันที่พ่อเลิกเหล้าได้จริงๆ

โชคดีที่ได้เจอโครงการนี้ โชดดีที่พ่อยังอยู่ และโชคดีที่เรายังมีโอกาสได้แก้ตัว


คุณลุงไสว ภูชัน 
 เปลี่ยนที่เรา เปลี่ยนที่โลก

“ขี้เหล้า เมายา ติดเหล้าขาวอย่างงอมแงม กินตั้งแต่มืดยันหลับ กินข้าวอยู่เหล้าหมดยังต้องวางช้อนไว้ เดินออกไปหาซื้อเหล้ามากินต่อ ไปวัดทำบุญไหว้พระก็ไปด้วยความเมา ลืมตาไม่ขึ้นก็เข้าไปกราบพระ”

คุณลุงไสว ภูชัน เล่าด้วยท่าทีสบายๆถึงความหลัง แต่วันหนึ่ง ขณะที่ได้ฟังเพลง ร้องเพลงไปด้วย พอจิตใจมันร่าเริง ความสุข ความสบายใจก็เกิดขึ้น ใจก็ไม่เศร้า อยากมีความสุขเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จากนั้นได้มีโอกาสเข้าร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิ จิตใจก็ดีขึ้น ไม่โมโห ไม่หงุดหงิด ไม่มีฟุ้งซ่าน พูดจาไพเราะ พอได้ลองพูดกับครอบครัวเพราะๆ ก็ได้รับกลับมาแต่สิ่งดีๆ ราวกับว่า เราทำดีไป 1 แต่ได้กลับมาเป็น 10 เท่า 20 เท่า

“ไม่ยากเลย เราไม่ต้องผลัด ทำเลย” คือสิ่งที่ลุงไสวบอกกับเรา นี่คงเป็นคำอธิบายที่ดีของประโยคที่ว่า “เปลี่ยนที่เรา เปลี่ยนที่โลก” แม้โลกทั้งโลกจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่อย่างน้อย โลกรอบตัวเราก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง